พระเสด็จสู่สวรรคาลัย

พระเสด็จสู่สวรรคาลัย


รวมบทความที่พระเถระและพระอริยสงฆ์ กล่าวถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

“พระองค์ทรงมีกระแสจิตแรงมาก ฉันเองยังสู้ท่านไม่ได้ เรื่องปรารถนาพุทธภูมินี่ พระองค์ (ในหลวง) ปรารถนามานาน แต่เวลานี้บารมีเป็น “ปรมัตถบารมี” เหลืออีก ๕ ชาติ และที่พระองค์ปฏิบัติมามันเลยแล้ว ไม่ใช่ไม่สำเร็จ พุทธภูมินี่ต้องบำเพ็ญกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระองค์เป็น “วิริยาธิกะ” ต้องบำเพ็ญถึง ๑๖ อสงไขยกำไรแสนกัป นี่เกิน ๑๖ อสงไขยแล้ว “แสนกัป” อาจยังไม่ครบ จึงต้องเกิดอีก ๕ ชาติ”
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

“นี้รูปพระเจ้าแผนดิน เก็บดีๆ แด้นั้น เอาไว้ในห้องพระ กราบไหว้บูชา พระพุทธเจ้านะนั้น”
พระครูภาวนาภิรัต วิ. (หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ)
วัดป่าอาจารย์ตื้อ ต.สันมหาพน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

“ก็มีแต่คนไม่ฉลาดเท่านั้นแหละ ถึงไม่รู้ว่าพระเจ้าแผ่นดินพระองค์นี้มีดีอะไร”
พระอาจารย์วัน อุตฺตโม (พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร) วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม (วัดถ้ำพวง) อ.ส่องดาว จ.สกลนคร
พระอุปัฏฐากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ทำหน้าที่ยาวนานที่สุด

หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร
ได้กล่าวรับรองไว้ด้วยองค์เองทีเดียวว่า
“ครูบาขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนาม เคยเป็นช้างนาฬาคิริง ส่วนในหลวงองค์ปัจจุบันเป็นช้างป่าเลไลยก์นะ…!!!” (ช้างป่าเลไลยก์คือพระโพธิสัตว์)
หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร
วัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

“วันหนึ่งข้างหน้า ในหลวงจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งของโลก ในหลวงเป็นพระโพธิสัตว์ ปรารถนาพุทธภูมิ”
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

“หากไม่มีในหลวง พระพุทธศาสนาก็ตั้งอยู่ไม่ได้”
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

“พระองค์มัวแต่เป็นห่วงคนอื่น แต่ไม่ทรงห่วงพระองค์เองบ้างเลย…”
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

“ในหลวงพระองค์นี้ ท่านเป็นพระโพธิสัตว์น๊ะ…”
ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต

“…การดูหมิ่นในหลวง ก็คือโค่นชาติบ้านเมือง เพราะนี่คือหัวใจของชาติ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย…โลกอยู่ได้ด้วยของดี คนดี ไม่ใช่อยู่ได้ด้วยของชั่ว คนชั่ว… ในหลวงเป็นคนดีมากที่สุด เราหาได้ที่ไหนในเมืองไทยเรานี้ พระองค์เสด็จนู้นเสด็จนี้ เราก็เห็นไม่ใช่เหรอ ไม่ได้หยุดเลย เหมือนกังหัน เพราะความห่วงชาติบ้านเมือง รักประชาราษฎร เพราะเป็นลูกของท่าน เราจะหาใครได้อย่างในหลวง ทำไมไปตำหนิในหลวงได้ลงคอ คนคนนั้น (ผู้ดูหมิ่นในหลวง) เป็นคนประเภทใดพิจารณาดูเถิด
…พึงบูชาคุณของคนดี เคารพ เลื่อมใส ยินดี…จะไปตำหนิในจิตเช่นนั้นแล้ว แสดงว่าคนนั้นเป็นคนที่ทำลายโลกได้อย่างร้ายแรงมาก เป็นคนเลวมาก อย่าถือเป็นคติตัวอย่าง ไม่ดี…”
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด (วัดเกสรศีลคุณ) อ.เมือง จ.อุดรธานี

ในหลวง กับ พ่อท่านคล้าย จนฺทสุวณฺโณ
กิตติศัพท์ทางคุณงามความดีของพ่อท่านคล้าย
ทรงทราบถึงในหลวงรัชกาลปัจจุบัน ทรงมีความสนพระทัยและศรัทธา จึงทรงพระกรุณาให้นิมนต์พ่อท่านคล้าย
เข้ารับพระราชทานภัทรกิจในพระราชวังสวนจิตรลดา

เมื่อพ่อท่านคล้ายกลับวัดลูกศิษย์ลูกหา ต่างพากันไปกราบที่บนกุฏิ เพื่อให้ท่านเล่าให้ฟัง ท่านลำดับเหตุการณ์ ตั้งแต่เจ้าพนักงานนำท่านเข้าไปนั่งรอภายในห้องต้อนรับ

ขณะที่รอในหลวงเสด็จออกท่านว่า“หัวใจมันเต้นแรงเหมือนนั่งอยู่ปากถ้ำพระยาราชสีย์ยังไงยังงั้น”

เมื่อพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกก้มกราบ ทำให้อิ่มใจพอง คับอก ชื่นชมในพระบารมี ช่างงดงามเป็นสง่าน่าเกรงขามยิ่งนัก

ในหลวงทรงสนทนาไต่ถาม โดยมีพระปลัดสุพจน์คอยชี้แจงถวายระหว่างสำเนียงปักษ์ใต้กับภาษากลาง

จนในที่สุดในหลวงทรงก้มพระเศียรเข้าใกล้พ่อท่านคล้ายด้วยพระราชประสงค์ให้ท่านรดน้ำมนต์ พรมพระเศียรให้พร ด้วยทรงพระราชศรัทธาเคารพ

ถึงตรงนี้พ่อท่านคล้ายพูดว่า “กูขนพองไปหมด พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงกฤดาภินิหาร ครองบ้านครองเมือง จะมาก้มให้พระป่าสามัญลูบพระเศียรได้ ท่านเป็นเทวดาของปวงชน”

ท่านเลยทูลว่า “มหาบพิตรได้ทรงโปรดยื่นพระหัตถ์มาเถิด”

ในหลวงทรงเงยพระพักตร์ยิ้ม และ ทรงยื่นพระหัตถ์ทั้งสองให้พ่อท่านคล้ายจับขึ้นเสมออก อธิษฐานพระชัยมนต์คาถาถวาย แล้วรดน้ำมนต์ใส่ฝ่าพระหัตถ์ของพระองค์เอง พร้อมถวายพระพรตลอดเวลา

ในหลวงทรงอิ่มเอิบปลาบปลื้มพระราชหฤทัยและทรงปวารณาทรงรับอุปัฏฐากเป็นส่วนพระองค์

ครั้นลูกศิษย์ถามท่านว่า “พ่อท่านถวายของดีอะไรหรือเปล่า”
ท่านตอบว่า “ไม่ให้เทวดาผู้เป็นยอดคนแล้ว จะให้ใครเล่า”

และ กล่าวอีกว่า “ในหลวงพ่อองค์นี้ ทรงบุญญาภินิหาร ทรงทศพิธราชธรรมบริบูรณ์”

อ่านแล้วส่งต่อ เป็น ธรรมทานฯ สาธุ ???

โทรสอบถาม